เรอัล มาดริด ได้เปรียบในเกมเลกแรก
เรอัล มาดริด เปิดบ้านเฉือน แอตเลติโก มาดริด 2-1 ในการแข่งขันฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2025 เก็บความได้เปรียบไปก่อนในนัดแรกที่ เอสตาดิโอ ซานติอาโก เบร์นาเบว
จังหวะสำคัญ
ราชันชุดขาว เริ่มต้นเกมลูกหนังยุโรปได้อย่างเร้าใจ เมื่อเปิดเกมบุกเข้าใส่ ตราหมี อย่างหนัก และแค่นาทีที่ 4 เฟเดริโก บัลเบร์เด ผ่านบอลให้ โรดรีโก้ ที่กระชากบอลเข้าไปในเขตโทษ ก่อนมีจังหวะซัดบอลเข้าไปซุกก้นตาข่าย “ราชันชุดขาว” ออกนำ 1-0 อย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตามก่อนจบครึ่งแรก แอต.มาดริด ที่พยายามจะยิงประตูตีเสมออยู่นานก็มาทำได้ในช่วงนาทีที่ 32 จากจังหวะการกระชากบอลเข้าไปในเขตโทษของ ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ ก่อนซัดบอลพุ่งเข้าประตูส่งให้ทีมเยือนเสมอ 1-1 และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
กลับมาเริ่มครึ่งหลังผ่านไป 10 นาที บราฮิม ดิอาซ โชว์สเต็ปเลี้ยงหลบแนวรับของแอตเลติโก มาดริดเป็นแผงก่อนจะจัดปั่นบอลเสียบเสาไกล มาดริด กลับมานำ 2-1
สรุปผลงาน
ช่วงเวลาที่เหลือ ทีมเยือนพยายามที่จะทวงประตูคืน แต่ยังเจาะไม่เข้า จบเกม มาดริด ชนะ 2-1 ครองความได้เปรียบไปก่อนในเลกแรก ก่อนจะไปเยือน ตราหมี ในวันที่ 12 มีนาคม 2025
สถิติสำคัญ
หากไม่นับรอบคัดเลือก เรอัล มาดริด สามารถคว้าชัยชนะเกมถ้วยยุโรปใบใหญ่ในศึกยูโรเปี้ยนคัพ/แชมเปี้ยนส์ลีกเป็นครั้งที่ 300 ได้สำเร็จ (ชนะ 498 เสมอ 85 แพ้ 113) ซึ่งมากกว่าทีมอื่นๆ ในประวัติศาสตร์การแข่งขันอย่างน้อย 63 ครั้ง (บาเยิร์น มิวนิค ชนะ 237 นัดจาก 398 นัด)
ส่วน บราฮิม ดิอาซ ผลงานในเกมนี้ทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นเรอัล มาดริดคนที่ 5 ที่สามารถทำประตูได้ใน 3 รายการที่แตกต่างกันเมื่อเจอกับแอตเลติโก มาดริดในศตวรรษที่ 21 ต่อจากเซร์คิโอ ราโมส (4 ประตู), คริสเตียโน่ โรนัลโด้, คาริม เบนเซม่า และโรดริโก้ โกยาส
ด้าน ฮูเลียน อัลวาเรซ เป็นผู้เล่นแอตเลติโก มาดริด คนที่ 3 ที่ทำประตูได้ในเกมดาร์บี้แมตช์ติดต่อกัน 2 นัดกับเรอัล มาดริด ที่ซานติอาโก เบร์นาเบว ระหว่างทุกรายการในศตวรรษที่ 21 ต่อจาก ดิเอโก้ ฟอร์ลัน ในปี 2010 และอองตวน กรีซมันน์ ในปี 2017
หลังจบเกม คาร์โล อันเชล็อตติ ผู้จัดการทีม เรอัล มาดริด กล่าวว่า “วันนี้ทีมวิ่งกันอย่างหนักและทำงานหนัก และผู้เล่นสองคนสร้างความแตกต่างได้ นั่นคือ โรดรีโก้ และบราฮิม”

“พวกเขาเป็นทีมที่ดีที่สุดเพราะทำงานหนักและมีส่วนช่วยทีมอย่างมาก ซึ่งทีมมีระเบียบและกระชับ เราไม่ได้กดดันมากเกินไป แต่ไม่ใช่แบบนั้น แอตเลติโก้ครองเกมได้ในบางครั้ง และในบางครั้งเราก็ทำได้ พวกเขาสร้างโอกาสได้ไม่มากนัก”
“เกมของพวกเขาสูสีมาก เป็นเกมรอบ 16 ทีมสุดท้าย แต่ก็อาจเป็นรอบชิงชนะเลิศหรือรอบรองชนะเลิศก็ได้ เรากำลังเล่นกับทีมชั้นนำของยุโรป และคุณคงไม่คิดที่จะจบเกมที่นี่ เราขึ้นนำเล็กน้อยและเราพอใจกับข้อได้เปรียบเล็กน้อยนี้ มันทำให้เรามั่นใจสำหรับเกมที่สอง แต่เราเชื่อว่ามันจะยากในนัดที่สอง เราต้องสู้ในนัดที่สอง”
จากนั้นเขาได้กล่าวชม บัลเบร์เด้ และ บราฮิม ดิอาซ ว่า “ผมไม่มีคำพูดใดจะกล่าวกับเขาอีกแล้ว เขาทุ่มเทอย่างหนัก เขาเหนื่อยมาก แต่แค่นั้นเอง เขามีความสุขที่ได้กลับมา และเขาก็มีส่วนช่วยทีมอย่างมาก”
“ส่วน บราฮิม ไม่แน่ชัดว่า เมื่อ จู๊ด เบลลิงแฮม กลับมา เขาจะกลับไปนั่งสำรองหรือเปล่า เขามีส่วนช่วยได้มาก เขาไม่ได้เป็นตัวจริงที่การันตีตำแหน่ง แต่เขาเป็นผู้เล่นที่สำคัญ เพราะเขาใช้ทุกนาทีที่ผมให้เขาอย่างเต็มที่ เขาเป็นแบบนั้นเมื่อปีที่แล้ว และจะเป็นแบบนั้นในปีนี้”
“เขาจะได้ลงเล่นเมื่อผมส่งเขาลงสนาม เมื่อเขายิงประตูได้ ผมคุยกับเขาเพราะโมดริชลงสนาม และเราต้องการเปลี่ยนแท็คติกเป็นแนวรับ 4-5-1เพื่ออธิบายการเปลี่ยนแปลงแท็กติกให้เขาฟังจากนั้นเราก็ส่งเขากลับไปเล่นทางซ้าย”
และสำหรับแฟนๆ ที่สนใจ ข่าวฟุตบอลยุโรป และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2025 ทีเด็ดเดิมพัน รวมไปถึง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2025 ข่าวฟุตบอลยุโรปสามารถติดตามข่าวได้ที่นี่
●●●
เข้าชมบล็อคของเราเพื่อดูข้อมูลต่างๆ และค่าอ๊อดส์ที่หลากหลายของฟุตบอล
อัพเดทข่าวสารทุกอย่างเกี่ยวกับกีฬาและการเดิมพัน